ต่อจากคราวที่เเล้วที่เราพูดถึงกำเนิดเมทัลโดยเริ่มต้นมาจากดนตรีฮาร์ดร็อค ในพาร์ทนี้เราจะมาต่อกันที่
1976 เริ่มเข้าสู่ยุคตกต่ำ

ในช่วงปี 1976 นั้นก็ได้มีการนำแนวเพลงต่างๆ เข้ามาผสมทำให้ดนตรี Hard Rock เริ่มมีการเปลี่ยนแปลง ยกตัวอย่างอัลบั้ม Technical Ecstasy ของ Black Sabbath หรือการสานต่อความสำเร็จของ A Night at the Opera ของ Queen รวมไปถึงงานชุด Hotel California ของ The Eagles ที่ทำยอดขายมหาศาล แต่กระนั้นเลยดนตรีแนว Hard Rock ก็ยังคงผลิตผลงานออกมาเช่น UFO กับงานชุด No Heavy Petting และงานของ Ted Nugent กับผลงานชุด Free for All อ่อ... ยังมีงาน High Voltage ของ AC/DC ที่ทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมเช่นกัน ส่วนทางด้านเรือเหาะสะท้านฟ้า Led Zeppelin ก็ยังออกงาน Presence รวมไปถึงบันทึกการแสดงสด The song remains the same แต่ถึงกระนั้นแนวเพลงแนวอื่นที่กำลังก่อร่างสร้างตัวอย่างเงียบๆ ก็คือ Punk รวมไปถึงงานระเบิดโลกของ ABBA และ Bee Gees ซึ่งมีส่วนที่ทำให้ดนตรีแนว Hard Rock ค่อยๆ เสื่อมความนิยมลงทีละนิดๆ
1977 - 1978 เข้าสู่ยุคตกต่ำ
ในช่วงปี 1977 - 1978 นี้ดนตรีแนว Hard Rock ถือว่าตกต่ำถึงขีดสุด เนื่องจากแนวดนตรีดิสโกของ Bee Gees, Boney M และ ABBA แผ่ขยายไปทั่วทุกมุมโลก รวมไปถึงการก่อกำเนิดโดยสมบูรณ์แบบของดนตรีแนว Punk อันมี Sex Pistols เป็นหัวหอกที่ทิ่มแทงจนดนตรีแนว Hard Rock เริ่มหมดลมหายใจทีละเล้กทีละน้อย แต่ถึงกระนั้นเลย บรรดาชาว Hard Rockers ก็ยังออกผลงานเยี่ยมๆ มาบ้างนั่นก็คืองานของ UFO นั่นก็คือ Light Out และ Rush สุดยอดวง Progressive Rock กับอัลบั้ม A Farewell to Kings รวมไปถึงว Queen กับงาน Opera Rock ที่ทำออกมานั่นก็คือ News of the world ที่มีบทเพลงอมตะอย่าง We will rock you และ We are the champion และในช่วงกลางๆ ปี 1977 วงการ Hard Rock ก็ได้สูญเสียมือกีตาร์อัจฉริยะไปอีกคนนั่นก็คือ Marc Bolan แต่ในปี 1978 ล่ะมีอะไรมั่ง... การก่อกำเนิดของฮีโร่ที่เข้ามากอบกู้วงการ Hard Rock ด้วยสำเนียงอันเป็นเอกลักษณ์ ใครวะ...? Eddie Van Halen ไงพวก... ผลงาน Van Halen นั้นทำให้เกิดความตื่นเต้นไปทั่วโลก... แต่ถึงกระนั้นวงดนตรีแนว Hard Rock ที่เคยยิ่งใหญ่สุดๆ ก็เสื่อมความนิยมลงไปทีละเล็กทีละน้อย เนื่องจากภาพยนตร์ Grease ที่ทำให้ Bee Gees ครองใจคนทั่วโลกได้มากกว่า รวมไปถึงวงดนตรีแนว Punk ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงมาก... สูงมากจนทำให้ Hard Rock ค่อยๆ หมดลมหายใจลงไปเรื่อยๆ

1979 เมล็ดพันธุ์ใหม่ก่อกำเนิด
ในช่วงที่ดนตรีแนว Punk และ Disco กำลังได้รับความนิยมอย่างสูงสุดอยู่นั้นเอง ก็มีวงดนตรียุคใหม่จากเกาะอังกฤษค่อยๆ ทยอยเปิดตัวขึ้นมาตามผับเล็กๆ เช่น Saint Vitus และ Venom แต่วงดนตรีที่ออกผลงานมาในช่วงปี 1979 นั้นก็ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของแนวดนตรีที่เรียกว่า New Wave of British Heavy Metal เช่นวง Motor Head, Judas Priest [พึ่งได้รับความนิยมในวงกว้างกับอัลบั้ม Hell bent for leather] ทางฝั่งอเมริกาก็มี Van Halen ที่ออกอัลบั้ม Van Halen II ออกมา ฝั่งออสเตรเลียก็มี AC/DC กับผลงาน Highway to hell ส่วนเหตุการณ์สำคัญในปี 1979 นี้ก็คือการโดนไล่ออกของ Ozzy Osbourne จาก Black Sabbath สำหรับการโดนไล่ออกนี้ก็ทำให้ในอนาคตของวงการ Metal เปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล (จะกล่าวถึงในภายหลัง) ส่วนผู้ที่เข้ามาแทน Ozzy Osbourne นั้นก็คือสุดยอดนักร้องนำแนว Metal อีกคนก็คือ Ronnie James Dio (ลาออกมาจาก Rainbow ของ Richie Blackmore แต่ก็ได้ Graham "น้าแหบ" Bonnet มาแทน)
1980 จุดจบของ Hard Rock และเข้าสู่ยุคใหม่อย่างเป็นทางการ...

ในปี 1980 นี้เองที่ถือว่าดนตรีแนว Hard Rock ได้ถึงกาลอวสานโดยสมบูรณ์แบบด้วยสาเหตุหลักๆ คือกระแสความนิยมของ Heavy Metal เข้ามาแทนอย่างสมบูรณ์แบบ และเหตุการณ์ที่ถือว่าดนตรีแนว Hard Rock สิ้นสลายไปก็คือการออกอัลบั้ม Heaven and Hell ของ Black Sabbath ที่เป็น Heavy Metal เต็มรูปแบบและการตัดสินใจยุบวงของ Led Zeppelin เนื่องจากการเสียชีวิตของมือกลอง John Bonham รวมไปถึงการออกอัลบั้ม Blizzard of Ozz ของ Ozzy Osbourne นั่นเอง... ในปี 1980 นี้วงดนตรีที่เรียกตัวเองว่า NWOBHM ก็มาแรงสุดๆ ซึ่งก็มีหัวหอกอย่าง Iron Maiden, Def Lappard, Saxon, Diamond Head, Angel Witch, Girlschool ฯลฯ และแน่นอน ... AC/DC กับนักร้องนำคนใหม่ Brian Johnson ก็ได้แจ้งเกิดสำเร็จกับผลงานที่ดังสุดๆ Back in Black นั่นเอง... อ่อ... Judas Priest กับอัลบั้มสุดคลาสสิก British Steel ส่วนเหตุการณ์สำคัญๆ ในปีนี้ก็คือ การเสียชีวิตของ Bon Scott นักร้องนำของ AC/DC ที่เสียชีวิตเพราะดื่มเหล้ามากไปนิด...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น