วันพุธที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2557

กว่าจะเป็น METAL part4



ต่อเนื่องจากพาร์ทที่3ที่ผมได้บอกแนวเพลงของเมทัล เเต่เนื่องจากมันยาวมากและก็กลัวว่าผู้อ่านจะเบื่อซะก่อน ก็เลยทำพาร์ทที่4ต่อซะเลย จะเป็นยังไงตามกันไปเลยครับ




Black Metal



แนว Black แนวนี้ เน้นเนื้อหาที่ลึกลับ เรื่องเล่า ตำนานโบราณ ปีศาจ ภูติผี ภูติ การ บูชาซาตาน พิธีกรรมมืด ใช้ Sound ในโทนต่ำ ดูม่นหมอง และการเหยียดหยาม ทุกศาสนา อย่างตรงไปตรงมา การทำลายล้างความ สันติสุข นิยมสงคราม การฆ่า ส่วนใหญ่อยู่แถว สแกนดิเนเวีย

แนะนำ Mayhem , DarkFuneral , Marduk










Power Metal



เป็นเมทัลที่มีรีฟกีตาร์หนา และอื่นๆ(บอกไม่ถูก) เช่นวง Iron Maiden Helloween มี2สายนะ คือ Power ThrashและHeavy Power Metal ด้วย










Industrial Metal



ต้นกำเนิดมาจากซาวนด์ในโรงงานอุสาหกรรมบวกกับความคับแค้นของสังคมเมือง ดนตรีสายนี้มีอายุมานานเช่นกัน แต่ได้รับความนิยมน้อยลง มี วง Fear Factory









Doom Metal



เป็นดนตรีคล้ายๆเพื่อชีวิต เนื้อหาจะเกียวกับชีวิตอาจเป็นความตายได้ในบางครั้ง ทรงพลัง แต่ ช้าเนิบๆ รีฟยานๆ นั้นละคือจุดเด่น ของดูมเมทัล ไมเน้นความไว อาจมี คีบอร์ดหรือ อะคูสติกกีตาร์ ด้วย









Gothic Metal



เป็นดนตรีเมทัลที่แยกมาจากสาย Doom , Black มีลักษณะ ดนตรีแห่ง ความโศกเศร้า หลอนจิต จะพิถีพิถัน
ดนตรีมากๆ แบบซิมโพนิก โครงสร้างจะเป็นซาวนด์ในยุคคลาสสลิก มีคีบอร์ดเป็นตัวเด่น และสามารถนำไป
ผสมกับแนว Death/Black ได้ด้วยเช่นกัน









Melodic Metal






เป็นเมทัลฟังง่าย ติดหูไว ไม่ได้เน้นความโหด จะเป็นทำนองสวยงาม พลิ้วไหวในการโซโล รีฟคมชัด อาจมีเปียโน,คีบบอร์ด ด้วย เช่นวง In Flames ,Amon Amarth ,Children of Bodom, Angra จะมีหลายสายเหมือนกันเช่น Melodic Power,Melodic Death เป็นต้น







Gore metal



Gore metal อันนี้ต้องยกยอดไปรวมกับ Brutal เพราะว่าจะเน้นดนตรีที่รวดเร็ว กดประสาท เสียงต่างๆ ประดังเข้ามา จนปวดกะโหลก เสียงร้องที่ สำราก กดตำ ตะโกน เหมือนกำลังจะตาย แต่ว่า ภาคดนตรีรับประกันความ ปึ๊ก! เพราะจะเล่นแนวนี้ได้เอ็งต้องเก่งโคตรอย่างแน่นอน ขอแนะนำ Disgore ของอเมริกา









Brutal Death



เป็นแนวดนตรีที่มาจาก Death Metal แท้ๆแต่เอามาสำรอกจนฟังไม่รู้เรื่องและจะเน้นในคีย์ต่ำๆ แต่บางช่วงจะแว๊กออกมาแหลมๆบ้างแต่น้อยกว่ากดเสียงต่ำๆ และกลองจะเน้นเร็วเพียงอย่างเดียว สังเกตุว่าแนวนี้จะมีเสียงสแนร์ที่รัวตลอดเวลา ท่อนส่งจะรัว Tom ทุกไปไล่เสียงไป หาฟังได้จากวง Canibal Corpe , Broken Hope









Gore Grind(Death)






อยู่ใน ไกรน์คอร์อยู่แล้ว แต่แตกมา แต่โหดร้ายกว่า บลูทัล และ ไกรน์คอร์ อีก สายพันธุ์นี้แยกยาก จะสับสนกับ บูลทัล และ ไกร์นคอร์ เสียงร้อง,โครงสร้างไม่ต่างกันมากนัก ไม่เน้นเทคนิกแบบบูลทัล ชอบมีซาวนด์สยองขวัญ นำมาเป็นไตเติล ดูง่ายๆตรงเนื้อเพลง เกียวกับ การ หั่น,สับ,ควักไส้







Porn Grind (Death)



เหมือนกับ ไกรน์คอร์ แต่ต่างตรงที่เนื้อหาจะเกียวกับ ความวิปริตทางเพศ เช่นวง Lividity


สุดท้ายนี้ก็ขอให้เพื่อนๆมีความสุขกับการฟังเพลงที่คุณชื่นชอบ และบล็อกนี้คงทำให้ใครหลายๆคนรู้ว่าเพลงแนว Metal มีความเป็นมายังไง ยาวนานขนาดไหนนะครับ

กว่าจะเป็น METAL part3



ในพาร์ทที่3นี้เราจะมาดูกันว่าแนวเพลงของเมทัลมีอะไรกันบ้าง




Hard Rock



Hard Rock หนึ่งในรูปแบบของดนตรีจังหวะ Rock and Roll ในยุค 1960 ดนตรี Rock ได้แตก

แขนงขึ้นมากมาย Hard rock ความนิยมสูงที่สุดในระหว่างปี 1969 และ 1985

Hard Rock จำกัดความอย่างง่ายๆ คือดนตรีมีนำดนตรีร๊อคนำมาเล่นในหนักขึ้น และ ได้เป็นต้นแบบของ

ดนตรี Heavy Metal แต่มีความแตกต่างเล็กน้อย คีย์ที่ปรับบ่อยๆ สเกลที่ใช้บ่อยๆ คือ Pentatonic

scale สำหรับการสร้างดนตรีนี้เริ่มจาก การใช้ Power chord จากแทนที่จะเล่นคีย์ธรรมดาแต่ปรับมาเล่น

ต่างจากปกติ 4-5 คีย์ ของ สเกล ในขณะดนตรีฮาร์ดร๊อคเกิดขึ้นก็ได้มีสายต่างๆแยกมาด้วยเช่นกัน เช่น Punk rock , Grunge ,


Industrial rock และ Heavy Metal อีกด้วย ซึ่ง Hard Rock ได้พัฒนามาเป็น Heavy Metal ใน

เวลาต่อมา


วง Hard Rock ที่แนะนำ

Black Sabbath , Deep Purple , Queen , Led Zeppelin , Van Halen , The Stooges

, MC5 , AC / DC , Gun ‘N Roses , Jimi Hendrix , The Who , Thin Lizzy , Aerosmith ,

Def Leppard , UFO , Cream etc.




Heavy Metal



Heavy Metal คือดนตรีรูปแบบหนึ่ง รูปแบบของเพลงคือความบ้าคลั่ง,จังหวะที่กำลังขับ ของ Rhythm

อันหนักหน่วง และที่ดังขึ้นอย่างมากของ Effect Distorted ของกีตาร์ Heavy metal คือการพัฒนา

หนึ่ง การพัฒนาของ Blues rock , Rock and Roll และ Prog rock แหล่งกำเนิดของมันอยู่ในสาย

Hard Rock ซึ่งระหว่าง 1967 และ 1974 หยิบเอา Blues rock , Rock and Roll มาสร้างลูกผสม

กับ Rock อีกด้วย กีตาร์ และ กลอง คือส่วนสำคัญของ Heavy metal มีความนิยมของมันใน 1980’s

ระหว่างนี้ Heavy Metal ยังคงมีโลกมากมายและไม่มีวันตาย โดยมีแฟนๆหรือเรียกว่า Metalheads

และ Headbangers เป็นผู้ฟัง และ สนับสนุนต่อไปเรื่อยๆ

วง Heavy metal ที่แนะนำ

Decapitated , Black Sabbath , Metal Church , King Diamond , Manowar ,

Motorhead , AC/DC , Ozzy Osbourne , Primal Fear , Mercyful Fate etc.





Speed Metal



Speed Metal คือประเภทของ Heavy Metal ซึ่งคล้ายกับ Thrash Metal ซึ่งไม่ตั้งใจให้ไพเราะและ

แสดงอิทธิพลเล็กน้อยของดนตรี Punk rock วง Judas Priest และ Accept คือซึ่งได้รับการพิจารณา

จะผู้พัฒนาหลักของประเภทนี้ โดย Judas Priest ได้ออกอัลบั้ม Painkiller ออกมาในปี 1990’s คือ

ตัวอย่างที่ดีจากประเภทนี้ โดยการผสม Riff ไวนรก โดยมีเสียงร้องของ Rob Halford เสียงแหลมสุดๆ

แบบ Heavy แต่ Speed จะเร็วกว่าเยอะ

วง Motorhead ได้ form วง ในปี 1975 โดยเล่น Speed Metal ผสมกับ ดนตรี Punk หรือเรียก

sound แบบนี้ว่า Heavy punk-influenced sound ซึ่ง เมทัลสายนี้ แบ่งแยกได้ยากมากๆ และส่วน

มากจะเรียกรวมกับ Thrash ว่า Speed Thrash Metal ไปเลย




Thrash Metal



Thrash Metal คือดนตรี ประเภทย่อย ของ Heavy Metal แหล่งกำเนิดของ Thrash Metal เกิดขึ้น

ใน 1970’s และเสื่อมใน 1980’s ล่าสุดเมื่อเริ่มต้นของวงต่างๆ ก็มีการรวบรวมวงต่างๆในฝั่งอังกฤษ และใช้

ชื่อว่า NWOBHM ย่อมาจาก New Wave of British Heavy Metal ดนตรี Thrash metal เป็น

สายที่มีความก้าวร้าวมาก คล้ายกับ Speed Metal ที่กล่าวไว้ข้างต้น

Thrash metal ถือว่าเป็นเมทัลแขนงหนึ่งที่จัดได้ยาก เพราะมีการนำดนตรีอื่นๆเข้ามาผสมมากมาย แฟนๆ

จำนวนหนึ่งและนักดนตรีมีความคิดมั่นคงของประเภทนี้ ได้ต่อต้านวงที่นำดนตรีอื่นๆเข้ามาผสม Thrash

แท้ๆ อาจเป็นเพราะไร้ประโยชน์ ก็ได้ เช่นการนำ ดนตรี Hardcore , Punk , Classical และ Jazz เข้า

มาผสม


โดยทั่วไป พื้นฐานแห่งดนตรีของ Thrash ประกอบด้วยความเร็ว และเสียงโทนต่ำ กีตาร์เร็วขยี้และความซับ

ซ้อน Riff กีตาร์ด้วยบางครั้งทำให้เป็นชั้นสูงเพลงร้องแล้วเล่นกีตาร์ไปพร้อมกันเลย

โดยปกติความเร็วพื้นฐานของกลองในรูปแบบ Thrash Metal นี้อยู่ใน 1/2 beat หรือ 2nd และ 4th

beats ของเครื่องมือวัด ใช้กลองเสียงต่ำกว่าใช้ธรรมดาอีกด้วย และใช้ กระเดื่องคู่ ตีกลองแบบสับๆดนตรี

Thrash นี้ เป็นต้นกำเนิดของสายเมทัลอีกมากมายเช่น Death Metal , Black Metal ก็โดยวง

Slayer , Venom ฯลฯ

วง Thrash metal ที่แนะนำ

Destruction , Kreator , Sodom , Anthrax , Megadeth , Metallica , Slayer ,

Annihilator , Artillery , Coroner , Dark Angel , Death Angel , Exodus , Nuclear

Assault , Overkill , Sadus , Sepultura ,Skitzo , Stormtroopers Of Death , Pantera ,

Testament , Vio-lence , Voivod , Venom etc.


Death Metal



แนว Death มีลักษณะที่ ใกล้เคียงกับ Black แต่ว่าเนื้อหาของ Death จะเน้นไปที่ การกระทำมากกว่า

Black พูดง่ายๆ Death เน้น กระทำ ส่วน Black เน้น ทางความคิด เน้นเนื้อหาไปทางความตาย การหลอกหลอน การทำลาย

ล้าง เลือด Sound จะบาดหูทำลายทำร้าย เยื่อหู

แนะ นำ Morbid Angel , Vader , Death

วันอังคารที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2557

กว่าจะเป็น METAL part2



ต่อจากคราวที่เเล้วที่เราพูดถึงกำเนิดเมทัลโดยเริ่มต้นมาจากดนตรีฮาร์ดร็อค ในพาร์ทนี้เราจะมาต่อกันที่




1976 เริ่มเข้าสู่ยุคตกต่ำ









ในช่วงปี 1976 นั้นก็ได้มีการนำแนวเพลงต่างๆ เข้ามาผสมทำให้ดนตรี Hard Rock เริ่มมีการเปลี่ยนแปลง ยกตัวอย่างอัลบั้ม Technical Ecstasy ของ Black Sabbath หรือการสานต่อความสำเร็จของ A Night at the Opera ของ Queen รวมไปถึงงานชุด Hotel California ของ The Eagles ที่ทำยอดขายมหาศาล แต่กระนั้นเลยดนตรีแนว Hard Rock ก็ยังคงผลิตผลงานออกมาเช่น UFO กับงานชุด No Heavy Petting และงานของ Ted Nugent กับผลงานชุด Free for All อ่อ... ยังมีงาน High Voltage ของ AC/DC ที่ทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมเช่นกัน ส่วนทางด้านเรือเหาะสะท้านฟ้า Led Zeppelin ก็ยังออกงาน Presence รวมไปถึงบันทึกการแสดงสด The song remains the same แต่ถึงกระนั้นแนวเพลงแนวอื่นที่กำลังก่อร่างสร้างตัวอย่างเงียบๆ ก็คือ Punk รวมไปถึงงานระเบิดโลกของ ABBA และ Bee Gees ซึ่งมีส่วนที่ทำให้ดนตรีแนว Hard Rock ค่อยๆ เสื่อมความนิยมลงทีละนิดๆ






1977 - 1978 เข้าสู่ยุคตกต่ำ




ในช่วงปี 1977 - 1978 นี้ดนตรีแนว Hard Rock ถือว่าตกต่ำถึงขีดสุด เนื่องจากแนวดนตรีดิสโกของ Bee Gees, Boney M และ ABBA แผ่ขยายไปทั่วทุกมุมโลก รวมไปถึงการก่อกำเนิดโดยสมบูรณ์แบบของดนตรีแนว Punk อันมี Sex Pistols เป็นหัวหอกที่ทิ่มแทงจนดนตรีแนว Hard Rock เริ่มหมดลมหายใจทีละเล้กทีละน้อย แต่ถึงกระนั้นเลย บรรดาชาว Hard Rockers ก็ยังออกผลงานเยี่ยมๆ มาบ้างนั่นก็คืองานของ UFO นั่นก็คือ Light Out และ Rush สุดยอดวง Progressive Rock กับอัลบั้ม A Farewell to Kings รวมไปถึงว Queen กับงาน Opera Rock ที่ทำออกมานั่นก็คือ News of the world ที่มีบทเพลงอมตะอย่าง We will rock you และ We are the champion และในช่วงกลางๆ ปี 1977 วงการ Hard Rock ก็ได้สูญเสียมือกีตาร์อัจฉริยะไปอีกคนนั่นก็คือ Marc Bolan แต่ในปี 1978 ล่ะมีอะไรมั่ง... การก่อกำเนิดของฮีโร่ที่เข้ามากอบกู้วงการ Hard Rock ด้วยสำเนียงอันเป็นเอกลักษณ์ ใครวะ...? Eddie Van Halen ไงพวก... ผลงาน Van Halen นั้นทำให้เกิดความตื่นเต้นไปทั่วโลก... แต่ถึงกระนั้นวงดนตรีแนว Hard Rock ที่เคยยิ่งใหญ่สุดๆ ก็เสื่อมความนิยมลงไปทีละเล็กทีละน้อย เนื่องจากภาพยนตร์ Grease ที่ทำให้ Bee Gees ครองใจคนทั่วโลกได้มากกว่า รวมไปถึงวงดนตรีแนว Punk ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงมาก... สูงมากจนทำให้ Hard Rock ค่อยๆ หมดลมหายใจลงไปเรื่อยๆ







1979 เมล็ดพันธุ์ใหม่ก่อกำเนิด




ในช่วงที่ดนตรีแนว Punk และ Disco กำลังได้รับความนิยมอย่างสูงสุดอยู่นั้นเอง ก็มีวงดนตรียุคใหม่จากเกาะอังกฤษค่อยๆ ทยอยเปิดตัวขึ้นมาตามผับเล็กๆ เช่น Saint Vitus และ Venom แต่วงดนตรีที่ออกผลงานมาในช่วงปี 1979 นั้นก็ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของแนวดนตรีที่เรียกว่า New Wave of British Heavy Metal เช่นวง Motor Head, Judas Priest [พึ่งได้รับความนิยมในวงกว้างกับอัลบั้ม Hell bent for leather] ทางฝั่งอเมริกาก็มี Van Halen ที่ออกอัลบั้ม Van Halen II ออกมา ฝั่งออสเตรเลียก็มี AC/DC กับผลงาน Highway to hell ส่วนเหตุการณ์สำคัญในปี 1979 นี้ก็คือการโดนไล่ออกของ Ozzy Osbourne จาก Black Sabbath สำหรับการโดนไล่ออกนี้ก็ทำให้ในอนาคตของวงการ Metal เปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล (จะกล่าวถึงในภายหลัง) ส่วนผู้ที่เข้ามาแทน Ozzy Osbourne นั้นก็คือสุดยอดนักร้องนำแนว Metal อีกคนก็คือ Ronnie James Dio (ลาออกมาจาก Rainbow ของ Richie Blackmore แต่ก็ได้ Graham "น้าแหบ" Bonnet มาแทน)




1980 จุดจบของ Hard Rock และเข้าสู่ยุคใหม่อย่างเป็นทางการ...








ในปี 1980 นี้เองที่ถือว่าดนตรีแนว Hard Rock ได้ถึงกาลอวสานโดยสมบูรณ์แบบด้วยสาเหตุหลักๆ คือกระแสความนิยมของ Heavy Metal เข้ามาแทนอย่างสมบูรณ์แบบ และเหตุการณ์ที่ถือว่าดนตรีแนว Hard Rock สิ้นสลายไปก็คือการออกอัลบั้ม Heaven and Hell ของ Black Sabbath ที่เป็น Heavy Metal เต็มรูปแบบและการตัดสินใจยุบวงของ Led Zeppelin เนื่องจากการเสียชีวิตของมือกลอง John Bonham รวมไปถึงการออกอัลบั้ม Blizzard of Ozz ของ Ozzy Osbourne นั่นเอง... ในปี 1980 นี้วงดนตรีที่เรียกตัวเองว่า NWOBHM ก็มาแรงสุดๆ ซึ่งก็มีหัวหอกอย่าง Iron Maiden, Def Lappard, Saxon, Diamond Head, Angel Witch, Girlschool ฯลฯ และแน่นอน ... AC/DC กับนักร้องนำคนใหม่ Brian Johnson ก็ได้แจ้งเกิดสำเร็จกับผลงานที่ดังสุดๆ Back in Black นั่นเอง... อ่อ... Judas Priest กับอัลบั้มสุดคลาสสิก British Steel ส่วนเหตุการณ์สำคัญๆ ในปีนี้ก็คือ การเสียชีวิตของ Bon Scott นักร้องนำของ AC/DC ที่เสียชีวิตเพราะดื่มเหล้ามากไปนิด...


กว่าจะเป็น METAL part1

   




เพลงเมทัล หลายคนเเค่ได้ยินชื่อคงจะเบือนหน้าหนีเเล้ว เพราะด้วยท่วงทำนองเพลงที่รุนแรง ซาวน์กีต้าร์ที่แสบสะท้านและเสียงร้องที่โหวกเหวกโวยวายฟังไม่รู้เรื่องเอาซะเลย เเต่ผมกลับเป็นคนนึงที่ชอบเพลงเเนวนี้มาก และหลายคนอาจไม่รู้ว่าดนตรีแนวนี้มีความเป็นมาที่ยาวนาน จนหลายคนอาจจะตกใจเมื่อได้รู้ว่าวงดนตรีบางวงที่คุณปลื้มหรือเคยชอบก็เป็นจุดเริ่มต้นของเเนวเมทัล เเล้วเราจะรอช้าอยู่ทำไม เรามารู้จักจุดเริ่มของเพลงที่ป่วนประสาทนี้ดีกว่า


1964 - 1969 ยุคเริ่มแรก





ในช่วงปี 1960 ดนตรีแนว Art, Acid, Progressive, Avantgarde Rock กำลังเฟื่องฟูสุดขีด ในปี 1964 ก็มีวงดนตรีวงนึงเพิ่มความรุนแรงใส่เข้าไปในการแสดงสดบนเวที พังข้าวของ เครื่องดนตรีจนชิบหายวายป่วงทุกครั้งที่เล่นก็คือ The Who และหลังจากนั้นในช่วงกลางๆ ปี 1964 ท่อน Riff ท่อนแรกที่ถือว่าเป็นต้นกำเนิดของดนตรีแนว Hard Rock และอีกหลายๆ แนวในยุคปัจจุบันก็ถือกำเนิดขึ้นมาซึ่งเพลงๆ นั้นก็สร้างความโด่งดังขึ้นมาถึงขีดสุด You really got me ของ The Kinks นั่นเอง ซึ่งเพลงนี้มีการใช้เอฟเฟกต์ Distortion ที่มีเสียงแตกสนั่นกว่าเพลงอื่นๆ ก็เลยได้รับการยกย่องว่าเป็น Riff แรกๆ ของดนตรีแนว Hard Rock นี้เลยนะ


หลังจากหมดยุค 1960 ที่เป็นช่วงทดลองของ Hard Rock ก็เข้าสู่ปี 1970 ที่ถือว่าดนตรีในช่วงนี้เป็นต้นกำเนิดของแนวดนตรีเมทัลทุกแขนงก็กำเนิดขึ้นจากฝีมือกีตาร์อันดุเดือดและสวยงามของ Jimi Hendrix ก็มีหลายๆ วงดนตรีรับแรงบันดาลใจมา จนถึงวันนี้นักดนตรีแนวเมทัลก็ยังมีการนำเพลงของ Hendrix มาเล่นกันบ่อยๆ แต่ถ้านับกันจริงๆ แล้วดนตรีแนว Hard Rock นี่ถือกำเนิดมาจากอังกฤษนะ เพราะอะไร...? ก็เพราะว่าในช่วงปลายๆ ยุค 60 เนี่ย หลายๆ วงดนตรีที่เล่น Blues Rock นั้นมาจากฝั่งอังกฤษแทบทั้งนั้น เช่น The Rolling Stones, The Yardbirds, The Who และ The Kinks ซึ่งวงดนตรีเหล่านี้จะมีการใช้ท่อน Riff ของกีตาร์ที่โดดเด่นรวมไปถึงไลน์เบสหรือกลองก็จะเริ่มรุนแรงขึ้นกว่าดนตรี Rock and Roll หรือ Blues Rock ในอดีต





ในช่วงเวลาเดียวกัน (ปลายยุค 60) ที่ฝั่งอเมริกาก็มีนักกีตาร์มือซ้ายที่ถือว่าเป็นตำนานถือกำเนิดขึ้น Jimi Hendrix ผู้สร้างตำนานแห่ง Psychedelic Rock จากแนวทางของดนตรี Blues Rock โดยมีส่วนผสมอย่างลงตัวจาก Jazz และ Rock and Roll ซึ่งตัวของ Jimi เองนั้นก็นำเอฟเฟกต์มาใช้เพื่อสร้างเสียงอันเป็นเอกลักษณ์ขึ้นมาก็พวก Fuzz, Feedback และ Distortion หลังจากนั้น ปี 1968 วงดนตรีแนว Hard Rock หลายๆ วงก็ถือกำเนิดขึ้นเช่น Deep Purple, Rush, The Jeff Beck Group, Led Zeppelin* และ Steppenwolf ( *Led Zeppelin แตกวงมาจาก The Yardbirds)
ในปี 1968 นี่แหละก็ถือว่าวง Deep Purple เป็นวงดนตรีแนว Hard Rock วงแรกของโลก เนื่องจากอัลบั้มออกมาก่อนเพื่อนนั่นเอง ไม่มีอะไรมากหรอก Shade of Deep Purple ก็ถือว่าเป็นอัลบั้ม Hard Rock อัลบั้มแรกของโลกไปโดยปริยาย... ในปีเดียวกันเรือเหาะสะท้านฟ้า Led Zeppelin ก็ถือกำเนิดขึ้นพร้อมๆ กับอัลบั้ม Led Zeppelin I ก็ออกวางตลาด เช่นเดียวกันกับมหากาพย์ Tommy ของ The Who รวมไปถึง In the gadda da vida ของ Iron Butterfly หลังจากนั้นในปี 1969 วงดนตรีที่ถือว่าสร้างแรงบันดาลใจให้กับ Metal ในปัจจุบันเกือบทุกวงก็ถือกำเนิดขึ้น Black Sabbath นั่นเอง (รวมไปถึง Judas Priest ด้วยนะ) มหกรรมดนตรี Woodstock เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 15-18 สิงหาคม 1969 และอีกมหกรรมดนตรีที่จัดในปีเดียวในช่วงส่งท้ายยุค 1960 ก็คือ Altamont ในวันที่ 6 ธันวาคม 1969 และ The Rolling Stones ก็ดันไปจ้างกลุ่มสิงห์มอเตอร์ไซค์นามว่า Hell's Angel มาควบคุมงาน ผลก็คือตีกันเละแถมยังโดนแทงตายอีก 1 หน่อ...

1970 กำเนิด Hard Rock เต็มรูปแบบ



เริ่มมาก็เปิดกันด้วย Black Sabbath กับอัลบั้มสุดสะเด่า Black Sabbath ที่ออกวางตลาดในวันศุกร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ 1970 อัลบั้มนี้ Toni Iommi ได้ใช้คุกใต้ดินของปราสาทแห่งนึงเป็นที่แต่งเพลงด้วยนะ Sound ของอัลบั้มนี้ได้รับการยกย่องจากนักดนตรีแนว Metal ทุกผู้ทุกนามว่ามันคือต้นแบบของ Heavy Metal มาจนถึงปัจจุบัน หลังจากนั้นไม่นาน อัลบั้ม In Rock ของ Deep Purple ก็ออกวางตลาด เสียงร้องของ Ian Gillan ในเพลง Child In Time ก็ระเบิดออกมา ทุกวงการงง ทำไมมันแหกปากได้ขนาดนี้ เช่นเดียวกันกับ Grand Funk Railroad ที่สร้างท่อน Riff อันว่องไวของ Mark Farner ที่สะกดคนดูที่เป็นสาวๆ ได้อยู่หมัด... ในปีนี้เอง Jimi Hendrix และ Janis Joplin ตายในเวลาใกล้เคียงกันด้วยอายุ 27 ปี!!!


1971 ระเบิดลูกแรกและเพลงชาติของ Heavy Metal



Master of Reality ของ Black Sabbath และ Fireball ของ Deep Purple ออกวางตลาด เพลง Lord of this world ของ Black Sabbath ได้รับการยกย่องว่าเป็นต้นกำเนิดของดนตรีแนว Doom Metal ในเวลาต่อมา... ส่วนสิ่งที่ถือว่าบังเอิญก็คือ อัลบั้ม Fireball นั้น สองนักดนตรีที่มีอิทธิพลในยุคต่อมาก็คือ James Hetfield และ Lars Ulrich จาก Metallica ได้ซื้ออัลบั้มนี้เป็นอัลบั้มแรกในชีวิต!!! ส่วนอัลบั้มประวัติศาสตร์อีกอัลบั้มหนึ่งที่เราไม่พูดถึงไม่ได้ก็คืองานของ Led Zeppelin ที่มีชื่อชุดว่า Led Zeppelin IV นั่นเอง อัลบั้มนี้ได้เป็นการถือกำเนิดของเพลงชาติของเหล่าบรรดา Heavy Metal ทั้งปวง Stairway to Heaven และก็มีการค้นพบว่าถ้านำเพลง Stairway to Heaven นี้มาเล่นแบบถอยหลังก็จะเป็นคำสวดบูชาซาตานด้วยล่ะ... อ่อ... ในปี 1971 นี้ Jim 'The Lizard King" Morrison แห่งวง The Doors ก็ตายเมื่ออายุ 27 เนื่องจากเสพยาเกินขนาด

1972 Riff อมตะของ Blackmore



Scorpions และ Kiss ฟอร์มวงขึ้นมาเป็นครั้งแรก ส่วน Black Sabbath ก็ออกอัลบั้ม Vol.4 ส่วน Deep Purple ก็ออกมาสองอัลบั้มก็คือ Machine Head ออกมาเช่นกัน เราพูดถึง Hard Rock แล้วจะไม่พูดถึง Machine Head มันก็กระไรอยู่ใช่ไหม เพราะอะไร? ก็เพราะว่า Highway Star และ Smoke on the water ไงเล่า เพลงแรก ท่อนโซโลอันว่องไวดุจสายฟ้าแล่บนี้สร้างแรงบันดาลใจให้กับเหล่า Neo-Classic รุ่นหลังมากมายเช่น Yngwie J. Malsteen และ Steve Vai ส่วนเพลงหลังนี่ท่อน Riff ที่อมตะนิรันดร์กาลถือว่าโดนใจจิ๊กโก๋ในสมัยนั้นมาจนถึงวันนี้...

1973 กำเนิด Supergroup



การรวมตัวกันครั้งแรกของ AC/DC และอัลบั้มแรกของ Aerosmith รวมไปถึงอัลบั้มเปิดตัวของ Queen ส่วนเรือเหาะสะท้านฟ้า Led Zeppelin ก็ออกอัลบั้ม House of the holy ซึ่งมีการนำคันชักไวโอลินมาใช้เป็นครั้งแรกกับเพลง The Rain Song ซึ่งอัลบั้มนี้มีคนบอกว่ากล่าวถึงซ่องโสเภนีในเมืองไทยด้วย ภูมิใจชิบหายเลยวุ้ย... อีกอัลบั้มที่ไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือ Beck, Bogert & Appice ซึ่งถือว่าเป็น Supergroup วงแรกๆ ของโลก (Jeff Beck, Tim Bogert และ Carmine Appice)



1974 ระเบิดลูกที่สอง





ในปีนี้เอง อัลบั้มสร้างชื่อให้หนุ่มน้อยจากเยอรมันก็ออกมาถล่มโลกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย Phenomenon ของ UFO. นั่นเอง อัลบั้มนี้สร้างแรงบันดาลใจให้กับจิ๊กโก๋ในยุคหลังๆ มากมายมหาศาล เพลงนี้ดังสุดๆ เพลงอะไรเหรอ? Rock Bottom ไงเล่า วู้วววว ยังไม่พอ Kiss ก็แต่งหน้ามาเต็มเหนี่ยวพร้อมๆ กับอัลบั้มแรกชื่อเดียวกับวง ยังไม่หมดนะ ยังมี อัลบั้มเปิดตัวของ Judas priest และ Rush ก็ออกมาในปีนี้เช่นกัน (ช่วงปลายปี John Rutsey มือกลองลาออกจากวง แล้วได้ Neil Peart ทำให้ Rush ขึ้นสู่จุดสูงสุดของวงในอนาคต) ในปีนี้ Sammy Hager ลาออกจาก Montrose ส่วน Van Halen และ Twisted Sister ก็ถือกำเนิดในปีนี้เช่นกัน

ในปีนี้เอง Led Zeppelin ขึ้นครองโลกทั้งใบด้วย Physical Graffiti ด้วยอัลบั้มคู่ที่โชว์ฝีมือของวงได้อย่างสมบูรณ์แบบ Black Sabbath ก็ออกอัลบั้ม Sabotage ที่ออกมาในสภาพที่เมายากันแบบเละตุ้มเป๊ะ นี่ยังไม่นับ Ritchie Blackmore ที่ลาออกมาจาก Deep Purple แล้วมาตั้งวง Rainbow นะ Ronnie James Dio เข้ามาร้องนำให้ ซึ่งก็ถือว่าเป็น 1 ในสุดยอดนักร้องคนนึงของวงการ Metal เลยล่ะ เอ้า... ขึ้นเครื่องบินแล้วไปกันที่ออสเตรเลียกัน ที่นั่นมีอะไร ทำไมต้องมา? Abba เหรอ? ไม่ใช่โว้ย AC/DC ต่างหากเล่า ในปีนี้เอง AC/DC ออกอัลบั้มแรก High Voltage ที่สร้างความฮือฮาด้วยการที่นำ Bon Scott ซึ่งออกจากคุกมาเป็นนักร้องนำ (Bon Scott ติดคุกอยู่ 3 เดือนมั้ง ถ้าจำไม่ผิด และสมาชิกในวงก็มีส่วนพัวพันกับคดีลักขโมยเล็กๆ น้อยๆ เพื่อสร้างภาพลักษณ์ความเป็นเด็กเลวแห่งวงการนั่นเอง) เอ้า... บินกลับมาอังกฤษอีกที ที่อังกฤษมีการฟอร์มวง Iron Maiden นะ แต่ยังไม่ออกอัลบั้มเน้อ... ยังไม่หมด UFO. ออกงาน Force It ส่วน Kiss ก็ออกอัลบั้มแสดงสดที่มันส์สะแด่วก็คือ Alive! มาถล่มชาร์ตบิลบอร์ด ส่วนอัลบั้มที่ไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือ A Night at the Opera ของ Queen งานชุดนี้ขึ้นอันดับหนึ่งอย่างไม่ยากเย็นนักกับเพลง Behemian Rhapsody ซึ่งได้รับการยอมรับว่า Queen คืออัจฉริยะทางดนตรีอย่างแท้จริง